วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ท่องไปในความหลัง


ใครขี้ง่วง รักความตื่นเต้น หวือหวา ไม่นิยมเหตุสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่สนเรื่องยิว บอกไว้ก่อนเลยว่า ไม่ต้องไปหาเรื่อง La Petite Prairie Aux Bouleaux (หรือ The Birch-Tree Meadow) นี้มาดู ถึงคนรุ่นดึกๆ หน่อยจะเห็นชื่อของ อนุก แอมเม นักแสดงเซ็กซี่สมัยนู้น แล้วชวนให้หามาชมก็อาจจะผิดหวัง
ส่วนใครมีคุณสมบัติตรงข้ามกับที่ว่ามานี้ เราไม่ห้าม

เรื่องราวของ มีเรียม โรเซนเฟลด์ ชาวยิวผู้รอดชีวิตจากค่ายกักกันในสงครามโลกครั้งที่ 2 เธอเดินทางจากนิวยอร์กมายังกรุงปารีส เพื่อร่วมงานชุมนุมผู้รอดชีวิตจากสงคราม มีเรียมจับสลากได้ตั๋วฟรีไปคราคาว ประเทศโปแลนด์ หลังผ่านการถกเถียงกับตัวเอง เธอก็ตัดสินใจเดินทางไปยังค่ายกักกันเอาสช์วิตซ์-เบอร์เคโน ครั้งแรกหลังจากได้รับอิสระมากว่าครึ่งศตวรรษ

บุคลิกของมีเรียมดูไม่อยู่กับร่องกับรอย เธอเดินกลับไปสู่สถานที่แห่งความอัปยศในอดีตอย่างเดียวดาย ความทรงจำในอดีต คำถามที่ค้างคา ถาโถมเข้ามารบกวนจิตใจของเธออีกครั้ง เป็นคำถามเดิมๆ ที่เธอ เฝ้าถามตัวเองตลอดระยะเวลาของ ชีวิต.... ทำไมเธอถึงรอดชีวิต? เธอมีสิทธิที่จะมีชีวิตรอดหรือ? ทำไมคนอื่นในครอบครัวจึงตายกันหมด? การเป็นยิวที่แท้มีความหมายอย่างไร?

ระหว่างการท่องไปในค่ายกักกันซึ่งรกร้าง เธอพบกับช่างภาพหนุ่มชาวเยอรมัน ซึ่งกำลังสร้างสรรค์ภาพถ่ายชุดค่ายกักกันเอาสช์วิตซ์-เบอร์เคโนอยู่ เขาขอให้มีเรียมเป็นแบบในภาพชุดของเขา ระหว่างที่เธอกำลังตัดสินใจจะตอบตกลง เขากลับเล่าว่า ปู่ของตัวเองเป็นอดีตเอสเอส ทำให้เธอต้องตัดสินใจลำบาก

La Petite Prairie Aux Bouleaux เล่าเรื่องอย่างเนิบนาบ ราวคำรำพึงรำพัน คล้ายเสียงกระซิบจากราวป่า อนุก แอมเม ตีบทแตกอย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะแฟนภาพยนตร์เก่าๆ ของเธอ อาจจะต้องตะลึงที่ผู้หญิงสาวสวยระดับซูเปอร์สตาร์ ที่มักเฉิดฉายในภาพหรูหรา จะมารับบทเป็นหญิงชราผู้มีความแปลกแยก (ติดจะเพี้ยนๆ) จากผลกระทบจากสงครามได้แนบเนียน โดยเฉพาะเมื่อเธอต้องเป็นศูนย์กลางของการเล่าเรื่องอย่างแท้จริง

นอกจากมาร์เซลีน ลอรีดอง-อีฟองส์ ผู้กำกับจะฉลาดในการเลือกตัวแสดงนำแล้ว เธอยังฉลาดในการเล่าประเด็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้แตกต่างไปจากที่หลายๆ คนเคยเล่า โดย La Petite Prairie Aux Bouleaux ไม่มีฉากย้อนอดีตไปเห็นความรุนแรง ที่หน่วยเอสเอสกระทำต่อชาวยิวแม้แต่น้อย

มาร์เซลีน ให้ตัวละครของเธอท่องไปในความทรงจำ เพื่อค้นหาความหมายของชีวิต ค้นหาสิ่งที่ตกหายไปในค่ายกักกัน ค้นหาความหมายของการเป็นยิว ซึ่งแปลกแยกต่อสังคมรอบข้าง ยังมีความรักความหลังที่อยากจำกลับพร่าเลือน ส่วนที่พยายามลืมก็กลับมีบางสิ่งที่คอยตอกย้ำอยู่เสมอ

"ไม่มีอะไรเหลือให้ดูแล้วในค่ายกักกัน..." นักท่องเที่ยวที่เดิมชมค่ายเอาสช์วิตซ์-เบอร์เคโนคุยกัน

เห็นได้ชัดว่า มาร์เซลีน ในภาค มีเรียม ไม่เห็นด้วย...

ไม่มีความคิดเห็น: