วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2551

สองเรา = หนึ่งคนหนึ่งสุนัข


บองบง (Bombon) เป็นชื่อของสุนัข หนังเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับสุนัขที่มาเปลี่ยนชีวิตและวิธีคิดของคนคนหนึ่ง...
สำหรับคนที่ชอบหนังแอ็กชัน บู๊สะบั้นหั่นแหลก บอกล่วงหน้าเลยว่า อย่าได้พยายามไปซื้อหา Bombon El Perro มาดู เพราะคงจะอดรนทนท่วงทำนองของหนังที่เอื่อยเฉื่อยเรื่องนี้ไม่ไหวเป็นแน่แท้
ตัวละครในเรื่องนำเอาชื่อจริงๆ ของตัวเองมาใช้ในหนังกันเลย ฮวน บิลเยกาส แสดงเป็นหนุ่มวัย 50 ต้นๆ ที่ตกงาน เขาอาศัยบ้านของลูกสาวที่มีลูกและสามีไม่ได้เรื่อง ฮวนพยายามหางานทำไปพร้อมๆ กับขายมีดที่เขาประดิษฐ์ด้ามเองจากไม้ชนิดพิเศษ ไม่เหมือนใคร
ทุกคนชอบมีดของเขา ทว่ามีดสวยๆ เหล่านั้นเป็นของฟุ่มเฟือยในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ด ไม่มีใครต้องการเสียเงินไปกับสิ่งเหล่านี้ ขณะเดียวกันการงานก็เป็นสิ่งหายาก โดยเฉพาะสำหรับคนในวัยเดียวกับฮวน
ชีวิตของเขาดูเหมือนสิ้นหวังลงทุกที ขนาดที่ไปเติมน้ำมันแล้วชนะรางวัลน้ำมันเครื่อง 1 ขวด ยังกลายเป็นโชคดีที่ยิ่งใหญ่ที่เขาอยากเล่าให้ใคร ต่อใครฟัง
แต่พระเจ้าก็ยังทรงเมตตา ให้เขาเดินทางไปพบผู้หญิงคนหนึ่ง และช่วยเธอนำรถที่เสียบนทางหลวงกลับไปส่งเธอถึงบ้าน แม่ของเธอจึงตอบแทนเขาด้วยสุนัขพันธุ์อาร์เจนติเนียนโดโกแท้ ซึ่งสามีของเธอทิ้งเอาไว้ก่อนตาย
จริงๆ แล้วเจ้าหมาน้อยสีขาวหุ่นดีชื่อว่า บองบง แต่แม่ของหญิงสาวเล่าว่า สามีที่เป็นชาวฝรั่งเศสของเธอเรียกมันว่า เลอเชียง (le chien) ซึ่งภาษาฝรั่งเศสแปลว่าสุนัข ฮวนเลยเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าบองบงชื่อ เลอเชียง กระนั้นหลังจากรู้ความจริงแล้ว เขาก็ยังเรียกมันว่าเลอเชียงเหมือนเดิม
เลอเชียงนับว่าถูกโฉลกกับฮวนโดยแท้ แม้เขาจะโดนลูกสาวต่อว่า หากเพียงวันแรกที่มีมันร่วมทาง เขาก็ได้งานเฝ้าโกดังพร้อมที่พักและอาหาร พอจะไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ผู้จัดการสาขาพอเห็นเจ้าบองบงเข้า ก็แนะนำให้เขาไปพบคนฝึกสุนัข (วอลเทอร์ โดนาโด) ซึ่งได้พาเขาเข้าสู่โลกของการประกวดสัตว์เลี้ยง โดยวอลเทอร์พยายามหว่านล้อมให้ทั้งคู่แบ่งผลกำไรกันคนละครึ่ง
วอลเทอร์หาช่องทางทำเงินให้ตัวเอง (และฮวน) อีก ด้วยการเสนอตัวเป็นพ่อพันธุ์แสนดีให้แก่ แม่พันธุ์อาร์เจนติเนียนโดโก ความพยายาม 2 ครั้งไม่ได้ผล จนต้องพาเจ้าบองบงไปตรวจร่างกายกันทีเดียว สัตวแพทย์บอกว่า มันมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีทุกอย่าง เพียงแต่ไร้สมรรถภาพทางเพศเท่านั้นเอง !
ฝันที่จะสร้างรายได้อีกทางสูญสลาย วอลเทอร์ เสนอว่าฮวนควรจะกลับไปทำงานเป็นช่างเหมือนเดิม ส่วนเขาจะพาเจ้าบองบงไปประกวดในงานต่างๆ เอง โดยฮวนผู้เป็นคนเรื่อยๆ เฉื่อยๆ อยู่แล้ว ปราศจากข้อโต้แย้งใดๆ
หรือว่า -- คำทำนายจากกาแฟก้นถ้วยของตุรกี... “ยังมีถนนให้คุณเดินทางอีกมากมาย และเส้นทางยังอีกยาวไกล” โดยนักร้องคาบาเรต์ (โรซา บัลเซคคี) ที่เขาพบระหว่างไปแข่งขันประกวดสุนัขจะไม่เป็นเช่นนั้น
อนาคตยังคงเป็นเรื่องที่มาไม่ถึง แต่ประโยคที่เธอบอกเขาว่า “เราไม่มีทางรู้ว่า เรารักคนคนหนึ่ง หรือสุนัขตัวหนึ่งมากขนาดไหน จนกระทั่งเราต้องสูญเสียมันไป” ช่างตรงใจของฮวนในตอนที่ไม่มีเลอเชียงเสียจริง...
หนังถ่ายทำกันในเมืองชนบทอันห่างไกลของอาร์เจนตินาอย่าง พาตาโกนียา เป็นเรื่องที่อาศัยสไตล์แลนด์สเคปมาเป็นองค์ประกอบของเรื่อง ตามเทรนด์แห่งยุคสมัยอีกเรื่องหนึ่ง ผู้กำกับคาร์ลอสปิ๊งฮวน บิลเยกาส ซึ่งเป็นช่างอยู่แถวๆ กองถ่าย จึงชวนเขามาลองเล่นหนังที่เล่าเรื่องราวความรักความผูกพันของคนและสุนัข และความสัมพันธ์ที่จะค่อยๆ พัฒนาไประหว่างหญิง (โรซา นักร้องคาบาเรต์) กับชาย (ฮวน)
สำหรับตอนจบของเรื่อง คาร์ลอสทิ้งให้คนดูคิดกันเองเป็นเรื่องอนาคต แล้วแต่จินตนาการของแต่ละคนจะวาดให้เป็นไป โดยมีไกด์คร่าวๆ เป็นคำทำนายของโรซา
...ยังมีถนนให้คุณเดินทางอีกมากมาย และเส้นทางยังอีกยาวไกล...
ส่วนในปัจจุบันขณะ โลกยังคงสดใสสวยงาม เพราะฮวนมีเลอเชียง
หนังสิ้นสุดภาพความผูกพันระหว่างคนกับสุนัขลงพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ที่เปี่ยมสุข แต่หลายคนก็อาจจะคิดเหมือนกันว่า น่าจะสุขใจได้รอยยิ้มกว้างและซาบซึ้งกว่านี้ หากคาร์ลอสเลือกนักแสดงมืออาชีพสักคนมาแสดงในบทนำ
เพราะในส่วนของเจ้าสุนัขบองบง เลอเชียงนั้น ตีบทแตกอย่างที่ฮอลลีวูดยังต้องอาย...

ไม่มีความคิดเห็น: