วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ดีเทอร์ แค่อยาก (จะ) บิน




มาถ่ายทำที่เมืองไทยเมื่อ 2 ปีก่อน และมีนักแสดงไทยร่วมงานด้วยจำนวนหนึ่ง โดยสวมบทเป็นชาวลาวและชาวไทยในค่ายกักกัน – เรื่องราวได้รับความบันดาลใจจากเรื่องจริงของ ดีเทอร์ เดงเลอร์ (คริสเตียน เบล) นักบินของกองทัพเรือสหรัฐ ที่เข้ามาปฏิบัติภารกิจในสงครามเวียดนาม ชื่อว่า “เรสคิว ดอว์น” (Rescue Dawn) ทว่าได้ ถูกยิงร่วง และในที่สุดก็ตกเป็นนักโทษในค่ายเชลยสงครามของเวียดกงในประเทศลาว
หนังเปิดเรื่องมาบนเรือรบ ในคลาสอบรมการเอาชีวิตรอดหากต้องหลงทางอยู่ในป่าเขตร้อน ทหารเรือทุกคนขำภาพในวิดีโอสาธิตการเอาตัวรอด หากฉากตอนทั้งหลายกำลังจะเกิดขึ้นจริงในชีวิตของดีเทอร์ ซึ่งหลังจากถูกจับได้ นำไปทรมาน และขังเอาไว้ในค่ายเชลยสงคราม อันเป็นที่ที่เขาได้เจอกับทหารอเมริกันอย่าง ดูแอน มาร์ติน (สตีฟ แซห์น) และ ยูจีน (เจเรอมี เดวิส) รวมทั้งทหารไทยและจีนที่ทำงานให้กองทัพอากาศอเมริกา โดยแต่ละรายนั้นถูกจับเป็นเชลยมาเป็นสิบๆ ปี
แล้วพวกเขาก็เริ่มวางแผนแหกค่ายกัน...
เรื่องราวไม่ได้จบลงตรงการแหกคุกสำเร็จหรือไม่ แต่ยังเล่าต่อถึงการเอาชีวิตรอดในป่าระหว่างเส้นทางหนี เช่นเดียวกับในตำราที่ดีเทอร์เรียนมา กว่าจะได้รับการช่วยเหลือจริงๆ ก็เกือบไม่มีชีวิตรอดมาเล่าประสบการณ์ให้ แวร์เนอร์ แฮร์โซก นำมาสร้างหนังได้ถึง 2 เรื่อง (เรื่องแรกเป็น สารคดีชีวิตดีเทอร์ ชื่อ Little Dieter Needs to Fly)
แม้จะทำงานร่วมกับฮอลลีวูด แต่ แวร์เนอร์ยังคงความเป็นตัวของตัวเองไว้ได้พอสมควร เช่นว่าการเลือกใช้ฟุตเทจภาพต่างๆ ที่เห็นได้ตั้งแต่ต้นเรื่อง เป็นภาพมุมสูงถ่ายผืนแผ่นดินที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ในลักษณะของภาพสโลว์โมชัน ที่ดูพ้องกับ คำพูดของดีเทอร์... “ถ้ามองจากอากาศ เวียดนามเหมือนไม่มีจริงสักนิด” และ “ผมไม่ได้อยากเข้าร่วมสงครามสักหน่อย ผมแค่ต้องการจะบินเท่านั้นเอง”
สำหรับบรรยากาศในค่ายเชลยสงคราม ดูเหมือนว่าแวร์เนอร์จะได้อิทธิพลจากหนังคลาสสิกเรื่อง The Bridge of River Kwai พอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของมิตรภาพ ที่เกิดขึ้นระหว่างนักโทษ ท่ามกลางความ ไม่ไว้วางใจกัน รวมทั้งการเอาชีวิตให้รอด ในแต่ละวัน
เช่นเดียวกับหนังเรื่องที่ผ่านๆ มาของแวร์เนอร์ เขาให้มนุษย์ตกอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของธรรมชาติ และต้องเอาชีวิต ให้รอด
เสียดายก็แต่ตอนจบของ Rescue Dawn ที่เป็นฮอลลีวูดจ๋ามากๆ จากหนังที่คลุมโทนมาตลอดทั้งเรื่อง อาจทำให้งงว่ายังดูเรื่องเดิมอยู่หรือเปล่านี่ หรือหนังเรื่องก่อนจบไปแล้วตั้งแต่ดีเทอร์ได้รับการช่วยเหลือขึ้นเฮลิคอปเตอร์
กับบทบาทของดีเทอร์ ซึ่งเกิดที่เยอรมนีช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่จะอพยพมาอยู่อเมริกา ทำให้เขาเข็ดขยาดสงคราม แต่กลับต้องถูกเกณฑ์มาเข้าร่วมกองทัพ ไม่ต่างจากทหารอเมริกันรายอื่นๆ ที่ไม่ได้ต้องการเข้าร่วมสงครามสักหน่อย หากวัตถุประสงค์ในการเป็นทหารของดีเทอร์ คือ เพื่อที่จะได้ “บิน” การแสดงแบบเมธอดของคริสเตียน นับว่าเป็นอีกผลงานมาสเตอร์พีซของเขาทีเดียว
ภาพรวมของหนังดูสนุกและสอบผ่าน แม้ว่าในขณะที่หนังเรื่องนี้ออกฉายที่อเมริกา จะมีญาติและอดีตนักโทษไทยที่เคยอยู่ในค่ายเชลยสงครามเดียวกันนี้ ออกมาโต้ แวร์เนอร์ว่า ข้อมูลหลายอย่างที่ปรากฏในหนังไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยเฉพาะบุคลิกแบบไม่อยู่กับร่องกับรอยของยูจีนในเรื่อง ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น (ไปอ่านได้ที่
www.rescuedawnthetruth.com)
“ความจริง” กับ “ความฮอลลีวูด” คงจะเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

ไม่มีความคิดเห็น: