วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ฝันเหนือฝันของชาวเช็ก


กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก พวกเขามีนัดกันในวันที่ 31 พฤษภาคม 2004 ที่ไฮเปอร์มาร์เก็ต (หรือซูเปอร์สโตร์) แห่งใหม่ "เชสกี เซ็น" (เช็ค ดรีม) ที่จะเปิดดำเนินการเป็นครั้งแรก คนจำนวน 3,000 กว่าคน ตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดง วัยรุ่น คนหนุ่มสาว ไปจนถึงคนแก่ชราอายุเหยียบ 90 มาพร้อมกันในเช้าวันสดใสหลังสิ้นสุดการเกิดสุริยุปราคา เพื่อจะพบว่า ทุกๆ อย่างเป็นเพียงความฝันเช่นเดียวกับชื่อซูเปอร์สโตร์เท่านั้นเอง

ก่อนหน้านี้ พวกเขาได้รับข่าวสารจากโฆษณาเกี่ยวกับไฮเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ ทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ โปสเตอร์ตามสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่บนท้องถนน ไปจนถึงโฆษณาบนรถราง แผ่นพับ ใบปลิว ฯลฯ ที่บอกเล่าคุณสมบัติความเป็นซูเปอร์สโตร์ในฝัน ที่มีนานาสารพัดสิ่งให้ทุกคนได้เลือกช็อปในราคาซึ่งถูกกว่าที่อื่นๆ ถึงครึ่งต่อครึ่ง นอกจากนี้ ยังมีมุมสันทนาการมากมาย และกิจกรรมหลากหลาย ให้ครอบครัวสามารถมาใช้เวลาร่วมกันได้ตลอดทั้งวัน

ก่อนหน้านี้ขึ้นไปอีก 2 หนุ่ม วิท คลูซ้าค และ ฟิลิป เรมุนดา กำลังจะจบการศึกษา พวกเขาคิดโปรเจ็กต์การโฆษณาสินค้าชิ้นหนึ่ง (ซึ่งไม่มีอยู่จริง) นั่นก็คือ เชสกี้ เซ็น ซูเปอร์สโตร์เพื่อชีวิตที่ดีกว่า สำหรับภาพยนตร์เพื่อจบการศึกษา

พวกเขาได้ทุนรัฐบาล ทำให้สามารถทำตัวประหนึ่งเจ้าของสินค้า และเริ่มจ้างทีมที่ปรึกษามืออาชีพ ตั้งแต่คนออกแบบโลโก้ ออกแบบเสื้อผ้าให้ทั้ง 2 คนใส่ คิดภาพยนตร์ สปอตโฆษณา เพลงประกอบโฆษณาพร้อมนักร้อง และ วงออเคสตร้า ตลอดจนแพ็กเกจจิ้งต่างๆ ที่จะประกอบในภาพยนตร์ดังกล่าว และบิลบอร์ด 400 แห่ง กับใบปลิวอีก 200,000 แผ่น รวมทั้งค่าลงโฆษณาในสื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร

Cesky Sen นับเป็นภาพยนตร์สารคดี ที่ถ่ายทอดการล่อลวงผู้บริโภคด้วยการโฆษณา ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์ของสาธารณรัฐเช็ก พร้อมๆ กับทำให้อนาคตในการเป็นนักสร้างภาพยนตร์สารคดี ของ วิท คลูซ้าค และ ฟิลิป เรมุนดา เริ่มจะโดดเด่นและ รุ่งโรจน์ ด้วยความที่โครงการของเขาสามารถที่จะกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น รวมทั้งสร้างภาพของสินค้าให้ผู้คนนับพันสนใจและเชื่อว่ามีอยู่จริง

คน 3,000 คน ที่ก่อนหน้านี้วิ่งแข่งกันเพื่อจะไปถึง เชสกี เซ็น ก่อนใคร เดินคอตก หลังจากค้นพบว่า ไฮเปอร์มาร์เก็ตในฝันของพวกเขา เป็นเพียงโครงเหล็ก ที่หุ้มผืนผ้าใบไว้เท่านั้น เสียงก่นด่า อย่างเช่น ...พวก นักการเมืองก็หลอกคน 10 ล้านคนทั้งประเทศไปแล้ว คนพวกนี้ยังมาซ้ำเติม ด้วยการหลอกคนเป็นพันๆ อีก... / ...เรื่องนี้มันก็บ้าพอๆ กับการเข้าร่วมกับสหภาพยุโรปของเช็กนั่นแหละ... / ...เขาไม่ควรหลอกใครอย่างนี้ เพราะเขาต้องรู้ว่า คนเช็กน่ะชอบกระโจนใส่เรื่องแบบนี้อยู่แล้ว... / ...ถ้าเขาจะหลอกเราก็ไม่น่าจะเป็นวันที่ 30 พฤษภาคมเลย น่าจะเปิดไปตั้งแต่เอพริลฟูลนั่น...

แต่กระนั้น ก็ยังมีชาวเช็กที่มองโลกในแง่ดี อย่าง ...ผมบอกแล้วว่า นี่ต้องเป็นเรื่องหลอกกันแน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างที่ผมพูดจริงๆ เห็นมั้ย ผมมีความสุขมากที่เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่เราน่าจะได้ของขวัญอะไรสักอย่างที่อุตส่าห์มานะผมว่า... / ...ผมก็ว่า เป็นเรื่องดีที่สามารถจะทำให้คนมากมายขนาดน ี้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์เสียบ้าง ที่นี่อากาศดีนะ ผมว่า ถ้าเราเตรียมตัวมาปิกนิกเสียเลยก็จะดีกว่านี้...

หลังการแยกตัวเป็นอิสระจากการปกครองแบบ คอมมิวนิสต์ของสหภาพโซเวียต สาธารณรัฐเช็กก็เริ่มที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของตัวเอง ให้เปิดรับแนวคิดแบบทุนนิยมมากขึ้น ในช่วงตอนของการเปลี่ยนแปลงมักจะเกิดอาการแปลกแยกทางวัฒนธรรม อย่างที่เรียกว่า คัลเจอร์ช็อก เกิดขึ้น ชาวเช็กคลั่งไคล้ในสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะ วัฒนธรรมจากโลกเสรีที่พวกเขาไม่เคยได้รับมาก่อน สารคดีเรื่องนี้ได้ตีแผ่สภาพสังคม รวมทั้งพฤติกรรมของชาวเช็กยุคใหม่ ออกมาอย่างดีเลิศ ถึงขนาดที่เหนือความ คาดหมายของเจ้าของภาพยนตร์ทั้งคู่เสียด้วยซ้ำ

Cesky Sen ได้รับรางวัลสารคดียอดเยี่ยมมากมาย ทั้งรางวัลภาพยนตร์ในประเทศเอง และในหลายเทศกาลภาพยนตร์ ทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกา รวมถึงในเอเชียด้วย อย่างเช่น เทศกาลภาพยนตร์บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เทศกาลภาพยนตร์โซโลทอฟ วิตยาซ ประเทศรัสเซีย เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติจีออนจู ประเทศเกาหลี ฯลฯ

นับเป็นสารคดีที่ดูสนุกเรื่องหนึ่ง นอกจากอารมณ์ขันแบบ "ไฮเปอร์คอมมิก" ที่ตลกร้ายสำหรับผู้คนแล้ว ยังสนุกในแง่ของการติดตามขั้นตอนในแคมเปญโฆษณา และการถ่ายทำของพวกเขา ท้ายที่สุดแม้ วิท คลูซ้าค และ ฟิลิป เรมุนดา จะถูกยำเละจากกลุ่มคนที่ไม่พอใจ

แต่ทั้งคู่ก็นับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในการล้อเล่นกับพฤติกรรมของประชาชนชาวเช็ก

ไม่มีความคิดเห็น: