วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

โลกลวงเฉพาะตัว


ระยะนี้ภาพยนตร์เกย์ยังคงอยู่ในกระแส และนี่ก็เป็นภาพยนตร์ อีกเรื่องที่น่าดู...

ตอนที่เลือกเรื่องนี้ขึ้นมาชมนั้น ไม่ทราบด้วยซ้ำว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย นีล จอร์แดน ผู้กำกับคนโปรดคนหนึ่ง ซึ่งในอดีตเคยมีผลงานที่เข้าตาผู้เขียนหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Mona Lisa (1986) We're No Angels (1989) The Crying Game (1992) Michael Collins (1996) The Butcher Boy (1997) ฯลฯ ด้วยชื่อเรื่องที่น่าสนใจ ทำให้ Breakfast on Pluto (2005) กลายเป็นผลงานของ นีล จอร์แดน อีกเรื่องหนึ่งที่ได้ผ่านตา

เรื่องราวของเด็กน้อยชาวไอริช แพตทริก "คิตเท่น" เบรเดน (คีเลียน เมอร์ฟี) ที่เกิดขึ้นมาจากความผิดพลาดของบิดาผู้เป็นบาทหลวง (เลียม นีสัน) กับแม่บ้านสาวแสนสวย ซึ่งทิ้งเด็กน้อยเอาไว้หน้าโบสถ์แล้วหนีไปลอนดอนตั้งแต่ยังแบเบาะ เด็กน้อยเฝ้าถามไถ่คนรอบข้างเกี่ยวกับมารดา จนกระทั่งเกิดเป็นพฤติกรรมเลียนแบบผู้เป็นแม่ กระทั่งทำให้ เพศที่แท้จริงของ แพตทริก "คิตเท่น" เบรเดน บิดเบี้ยวเพี้ยนผิดไป

เขาเริ่มต้องการสวมกระโปรง และใส่รองเท้าส้นสูง หลังจากที่ทราบว่า มารดาแท้ๆ ของเขานั้นเป็นผู้หญิงสาวสวย ผมสีบลอนด์ราวกับนักแสดงชื่อดังคนหนึ่ง จนแม่ที่เลี้ยงดูเขามาต้องออกไม้เด็ดขาด เพื่อที่จะให้เขาคงเพศชายเพศเดิมของตัวเองเอาไว้

ความชัดเจนของเพศที่เพี้ยนผิด เกิดขึ้นเมื่อเขาไปคลุกคลีกับวงดนตรี และพบรักกับ บ๊อบบี้ นักร้องนำประจำวง ที่เปิดโอกาสให้เขาเป็นนักร้อง "ฉิง" ร่วมวงด้วย ยาเสพติดเชื่อมโยงโลกของทั้งสองให้สวยสดงดงาม ราวกับมีโลกเฉพาะส่วนตัวที่ตื่นขึ้นมารับประทานอาหารเช้าบนดาวพลูโต

แต่แล้ว คิตเท่น ก็ค้นพบว่า บ๊อบบี้ นั้นอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวไอริช หรือ ไออาร์เอ จึงนำปืนทุกกระบอก ที่ซ่อนเอาไว้ใต้ช่องเล็กๆ ในรถเคลื่อนที่ซึ่งเป็นรังรักของพวกเขาทิ้งน้ำ แล้วตำนานรักบนดาวพลูโตอันเป็นรักครั้งแรกของคิตเท่นก็ปิดฉากลง

อย่างไรก็ตาม คิตเท่นต้องกลับมาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง ของการแบ่งแยกดินแดนที่น่าเกลียดชัง เหตุการณ์ที่ตอกย้ำและกลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ก็คือ การที่เพื่อนรักที่เป็นดาวน์ผู้แสนบริสุทธิ์ของคิตเท่น ถูกระเบิดของกลุ่มไออาร์เอเสียชีวิต ทำให้เขาต้องการจะละทิ้งทุกอย่าง เพื่อออกตามหามารดาในกรุงลอนดอน

การผจญภัยของคิตเท่นในโลกกว้างเริ่มต้นขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ภายนอก ที่เป็น "ผู้หญิง" เต็มตัว ก่อนที่เธอจะสืบค้นจนพบว่า มารดาที่แท้นั้นมีครอบครัวอันแสนสุข เธอก็ต้องผ่านประสบการณ์การทำงานหลายหลาก ทั้งนักมายากล หรือแม้แต่โสเภณี และนางทางโทรศัพท์ ชีวิตในลอนดอนเกือบทำให้เธอเอาตัวไม่รอดหลายครั้ง ท้ายที่สุด คำเฉลยในการเดินทางมาเกือบครึ่งชีวิตของคิตเท่น กลับไม่ใช่เพียงการได้พบมารดาเท่านั้น...

นีล จอร์แดน ร่วมกับ แพตทริก แม็คเคบี ผู้เขียนหนังสือชื่อเดียวกัน เขียนบทสำหรับภาพยนตร์ ทำให้เทคนิคในการเล่าเรื่องราวกับนำนวนิยายมาโลดแล่นเป็นภาพได้ สอดประสานกันอย่างลงตัว คล้ายกับกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่จริงๆ โดยมีนีลเป็นผู้จินตนาการภาพในฉบับให้เคลื่อนไหว

นอกจากเทคนิคการเล่าเรื่องของ นีล จอร์แดนแล้ว อีกเรื่องที่น่าชมก็คือ การแสดงของ คีเลียน เมอร์ฟี ที่สามารถทำให้ทุกคนเชื่อว่า เขาเป็นเกย์! ที่อ้อนแอ้น อ่อนแอ ไร้ทางสู้ เป็นผู้ถูกกระทำจากสังคม

หลายคนที่ "ไม่เก็ต" ภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจคิดว่าเป็นเรื่องราว เลื่อนลอยไร้สาระ ด้วยท่วงจังหวะของภาพยนตร์ ที่เล่าชีวิตการเดินทางของคนผิดเพศคนหนึ่งที่ออกตามหาแม่ แต่ Breakfast on Pluto (2005) ก็มีหลายๆ สิ่งที่สอดแทรกอยู่ในนวนิยายบนแผ่นฟิล์ม

ไม่ว่าจะเป็น สังคมของชาวไอริชในสมัยทศวรรษ 70 ด้านมืดของสังคมที่ฟอนเฟะ บาทหลวงทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ ความขัดแย้งทางสังคมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ยาเสพติด

โลกที่ไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นเสมอไป

ไม่มีความคิดเห็น: