วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

อิสรภาพจากความกลัว

* * * * * * * * * *
Hunger
ปี 2008
ประเทศ อังกฤษ
ภาษา อังกฤษ
ประเภท ชีวิต
เรตติ้ง R (ความรุนแรง/ภาพเปลือย/ภาษา)
ความยาว 96 นาที
กำกับ สตีฟ แมคควีน
นำแสดง ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์/เลียม คันนิงแฮม/สตวร์ต แกรห์ม/เลียม แมคมาฮอน/ลาลอร์ รอดดี/อารอน โกลด์ริง
* * * * * * * * * *

เหตุการณ์ประท้วงอดอาหารในคุกเมซ ซึ่งผู้ต้องขังเป็นนักโทษการเมืองชาวไอร์แลนด์เหนือ ที่รู้จักกันในชื่อ Hunger Stike ปี 1981 นำโดยสมาชิกไออาร์เอ บ๊อบบี ซานด์ส กลายป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของศิลปินชาวอังกฤษ สตีฟ แมคควีน เขาทั้งเขียนบท (ร่วมกับเอนดา วอลช์) และกำกับเอง จนได้รางวัลปาล์มทองคำ ผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์มาครอง

นอกจากนั้นยังคว้ารางวัลหนังยอดเยี่ยมหลายเวที ตั้งแต่เทศกาลภาพยนตร์ซิดนีย์ อีฟนิง สแตนดาร์ด บริทิช ฟิล์ม อวอร์ด เวทีบาฟตา ฯลฯ

หนังเปิดเรื่องขึ้นมาที่บ้านของคนคุมนักโทษ (สตวร์ต แกรห์ม) เขากำลังอาบน้ำ ล้างหน้า แต่งตัว และกินอาหารเช้าก่อนออกไปทำงาน มือของเขาเต็มไปด้วยรอยแผล

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร บาดแผลของเขาได้มาจากไหน ทำไมเขาจึงต้องระแวดระวังขนาดนั้นก่อนออกจากบ้าน จนกระทั่งตามเขาไปที่ทำงาน ดูการทำงานของเขา

นักโทษคนใหม่เพิ่งถูกส่งตัวมายังเรือนจำเมซ เขาปฏิเสธที่จะสวมชุดนักโทษ เจ้าหน้าที่จึงให้เขาถอดเสื้อผ้าออกหมดและมอบผ้าห่มให้ปกปิดร่างกายเพียงผืนเดียว

ในห้องขังมีนักโทษอีกคนอยู่แล้ว ในสภาพผมยาวหนวดเครารุงรัง ห้องขังที่มีเพียงแสงสว่างจากหน้าต่างบานเล็กๆ ฝาผนังเลอะเทอะไปด้วยงานศิลปะที่สร้างสรรค์จากเศษอาหารและของจากการขับถ่าย

สตีฟ แมคควีน ค่อยๆ ให้เหตุการณ์เล่าเรื่อง ตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดการประท้วงอดอาหาร โดยเริ่มต้นด้วยการประท้วง "ไม่สวมเสื้อผ้านักโทษ" "ไม่อาบน้ำ" "ทำห้องขังเลอะเทอะ" "ราดฉี่ออกมาบนพื้น" (ฺBlanket & Dirty) เจ้าหน้าที่เรือนจำพยายามจะทำลายการประท้วงของนักโทษการเมืองเหล่านี้ ด้วยการจับพวกเขาออกไปอาบน้ำตัดผม – แต่ก็เป็นการปฏิบัติระหว่างผู้คุมที่ไร้ความปรานีต่อนักโทษหัวรุนแรงทั้งหลาย ที่แน่นอนว่าไม่ได้เป็นไปอย่างราบเรียบและไม่เกิดการเลือดตกยางออก

หนังเปิดตัวบ๊อบบี ซานด์ส (ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์) ถูกลากออกไปอาบน้ำตัดผมแบบทุลักทุเล -- ตอนนั้นเป็นเวลา 7 เดือน ก่อนที่ผู้นำขบวนการอย่างเขาจะอดอาหารประท้วงจนเสียชีวิต

นักโทษการเมืองที่มาจากขบวนการไออาร์เอเหล่านี้ ดูเหมือนจะรู้จักกันหมด ในการพบปะญาติ พี่น้อง แต่ละคนทักทายกันอย่างสนิทสนม เช่นเดียวกับการเข้าฟังบาทหลวงเทศน์วันอาทิตย์ แต่ละคนต่างจับกลุ่ม จับคู่คุยเสียงเซ็งแซ่ แม้ว่าจะถูกแยกขังในคุกทั้งแคบ ทั้งมืดและสกปรกด้วยจิตรกรรมฝาผนังจากสิ่งปฏิกูล

ไฮไลต์ของหนังให้ความสำคัญไปที่ช็อตการพูดคุยเรื่องอุดมการณ์ระหว่างบ๊อบบี และบาทหลวง (เลียม คันนิงแฮม) ที่พยายามมาเกลี้ยกล่อมให้เขาเลิกอดอาหารประท้วง ยาว 17 นาที ทว่าไม่ประสบผล (และค่อนข้างจะเป็นซีนที่น่าเบื่อไปหน่อย)

ในหนังเราจะได้เห็นพัฒนาการทางร่างกายของไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์ นักแสดงนำ ตั้งแต่รูปร่างบึกบึนล่ำบึก และค่อยๆ ผอมลงในระหว่างการอดอาหารกว่า 3 เดือน กระทั่งระบบร่างกายล้มเหลวทุกอย่าง

ใน The Troubles หรือ "ปัญหา" ระหว่างขบวนการกู้ชาติไออาร์เอกับอังกฤษอันยืดเยื้อยาวนานกว่า 20 ปีก่อนหน้าเหตุการณ์ในหนัง มีผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติการอย่างกองโจรไปแล้วหลายพันคน เมื่อรัฐบาลอังกฤษสมัยมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ ดำเนินนโยบายแข็งกร้าว เพื่อจัดการกับขบวนการปลดปล่อยไอร์แลนด์เหนือ หรือไออาร์เอ

เช่นเดียวกับสมาชิกขบวนการกู้ชาติฯ ที่ไม่ต้องการให้ผู้คนและประเทศที่ตัวเองถือว่ามีเอกราชเต็มขั้น ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของอีกฝ่าย ทั้งคู่จึงเหมือนน้ำกับน้ำมันที่ไม่สามารถจะผสมผสานกลมเกลียวกันได้

แม้ในมุมมองของสตีฟ แมคควีน จะให้ทางฝ่ายอังกฤษตกเป็นผู้ร้าย แต่เขาก็ไม่ได้ถึงกับป้ายสีดำสนิทไปยังฝ่ายนั้นเสียทีเดียว เขาให้บทบาทเจ้าหน้าที่เรือนจำคนเปิดเรื่องเป็นคนที่ไร้สุข ขณะที่เด็กหนุ่มรุ่นใหม่ในหน่วยปราบจลาจลบางราย ก็ไม่ต้องการทำร้ายนักโทษอย่างรุนแรงเช่นคนอื่นๆ

พวกเขาถึงกับต้องหลั่งน้ำตาเมื่อเห็นการกระทำอันรุนแรงป่าเถื่อนของพวกเดียวกัน...

ในฐานะที่เป็นจิตรกร สตีฟอาศัยสัญลักษณ์จากงานศิลปะมากมายในหนังเรื่องนี้ เช่น ศิลปะบนฝาผนังจากสิ่งปฏิกูลรูปวงกลมซ้อนๆ กัน นอกจากจะสื่อถึงความสับสนวุ่นวายแล้ว เมื่อจ้องมองไปที่รูปภาพก็ช่างคล้ายกับอุโมงค์ที่อาจจะนำไปสู่อิสรภาพ

สำหรับนักดูหนังบ้านเราที่อาจจะไม่คุ้นเคยกับขบวนการกู้ชาติของอีกฟากโลก อาจจะตั้งคำถามว่า การประท้วงจนเสียชีวิตของบ๊อบบี ซานด์ส และเพื่อนร่วมขบวนการอีก 7 รายใน Hunger Stike ครั้งนั้นได้รับชัยชนะหรือว่าตายฟรี

หนังที่จบลงอย่างสวยงามด้วยอิสรภาพที่ได้รับจากความตายของบ๊อบบี ไม่ได้ให้คำตอบเอาไว้ ต้องไปพลิกหน้าประวัติศาสตร์อ่านต่อกันเอาเอง ถึงนโยบายที่อ่อนลงโดยทันใดของอดีตนางสิงห์แห่งอังกฤษ

ไม่มีความคิดเห็น: