
Wciemnosci (InDarkness)
ปี: 2011
ประเทศ: โปแลนด์
ภาษา: โปล
ประเภท: ชีวิต/สงคราม
เรตติ้ง: R (เด็กอายุต่ำกว่า18ปีไม่ควรชม)
ความยาว: 145 นาที
กำกับ: แอกนิสซกา ฮอลแลนด์
แสดงนำ: โรเบิร์ต เวียสเควิชซ์/ เบนโน ฟูร์มันน์/ แอกนิสซกา โกรโชว์สกา/ มาเรีย ชเรเดอร์/ เฮอร์เบิร์ต คโนป/ คริสตอฟ สโคนิสซนี/ มิคาล ซูรอว์สกี

เลโอโปลด์ (โปลเดค) โซชา (โรเบิร์ตเวียสเควิชซ์) คนงานในท่อระบายน้ำ ที่มีไซด์ไลน์เป็นโจรลักเล็กขโมยน้อย กับคู่หูหนุ่มของเขา เซซเปค โรเบลสกี (คริสตอฟสโคนิสซนี) ใช้ชีวิตส่วนใหญ่โดดเข้าโดดออกอยู่ในท่อระบายน้ำ ของเมืองละวอฟประเทศโปแลนด์
ทั้งคู่รู้จักท่อระบายน้ำของละวอฟทุกกระเบียดนิ้ว เพราะนอกจากจะเป็นสถานที่ทำงาน อาศัยเป็นทางลัด เดินทางไปมาในเมือง รวมถึงดอดออกไปลักเล็กขโมยน้อยตามบ้านเศรษฐีแล้ว พวกเขายังนำเอาข้าวของที่ขโมยมาซ่อนเอาไว้ในรอยแตกของท่ออีกต่างหาก
วันหนึ่งระหว่างเดินไปมาในท่ออันแสนมืดมิดตามปกติ เลโอโปลด์ และ เซซเปค ก็เจอกับชาวยิวกลุ่มหนึ่ง นำโดย มุนเดค มาร์กูเลส (เบนโน ฟูร์มันน์) กับ อิกนาซี่ ชีเกอร์ (เฮอร์เบิร์ต คโนป) ยิวผู้มีอันจะกินที่เจาะพื้นบ้านในบ้านของตัวเองลงมายังท่อระบายน้ำ เอาไว้เป็นทางหนีทีไล่

กระทั่งถึงวันเสียงปืนแตก ทหารนาซีเริ่มทำการกวาดล้างชุมชนยิว โดยบังคับให้พวกเขาออกจากบ้านไปอยู่ในค่ายกักกันเลโอโปลด์ ผู้รู้จักเส้นทางในท่อระบายน้ำดีราวกับมือตัวเอง รีบไปรับกลุ่มชาวยิวที่จะหนีลงท่อตามสัญญา
ราว 14 เดือนที่ต้องอยู่ภายในท่อ พวกเขาต้องอยู่ให้เคยชินกับความมืด ความชื้นและหนู อาหารกับน้ำที่ไม่เพียงพอผสมผสานกับความเครียดเรื่องชีวิตที่ไม่แน่นอน ทำให้หลายๆ คนเริ่มป่วย และใกล้บ้า บางคนก็เริ่มหนีไปตายเอาดาบหน้า

ความสัมพันธ์ระหว่างคาทอลิกโปลกับยิวโปล ดูคล้ายเนื้อหาใน Schindler's List ของสตีเว่น สปีลเบิร์ก (ซึ่งเรื่องราวเกิดในเชโกสโลวาเกีย) ทั้งเลโอโปลด์ โซชา และออสการ์ ชินด์เลอร์ ต่างก็ดูแสนจะไร้เหตุไร้ผลในการกระทำของพวกเขาเหมือนๆ กันอีกต่างหาก
นับเป็นเวลา 20 ปี นับจาก Europa, Europa แอกนิสซกา ฮอลแลนด์ จับเอาเรื่องจริงของชาวยิวผู้รอดชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 2 มาเล่าให้ฟังกันอีกครั้ง แล้วก็เป็นอีกครั้งเช่นกันที่ได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม

ท้ายที่สุด ผู้รอดชีวิตของ แอกนิสซกามิใช่หมายความเพียงกลุ่มชาวยิวเพียงหยิบมือหนึ่งในท่อเท่านั้น แต่ย่อมเป็น เลโอโปลด์เอง ที่ไม่ปล่อยให้ความขลาดเขลาอยู่เหนือมนุษยธรรม
อันเป็นสิ่งที่สังคมทุกแห่งในทุกยุคทุกสมัยต้องการ