วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

ทุกคนล้วนเป็นเหยื่อ


ก่อนปี 1992 กรุงซาราเยโวยังเป็นหนึ่งในสาธารณรัฐยูโกสลาเวีย ทั้งมุสลิม เซิร์บ และโครแอต ต่างอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างสันติ เป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน รวมทั้งยังไปเดต คบหากันข้ามเผ่าพันธุ์ ข้ามเชื้อสาย ข้ามศาสนา

จิตรกรสาวสวยเชื้อสายบอสเนีย ไอลา (ซานา มาร์ยาโนวิช) ที่เพิ่งนัดเดตแรกกับนายตำรวจหนุ่มเชื้อสายเซิร์บ ดาเนียล (โกรัน คอสทิช) ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างกลับ พลิกผันไปอีกหน้ามือ เมื่อผู้นำเผด็จการขณะนั้น สโลโบดัน มิโลเซวิช ไม่เห็นด้วยกับการขอแยกตัวเป็นอิสระของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา

สงครามกลางเมืองจึงเกิดขึ้น และเปลี่ยนสถานะเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน และคู่เดต จากมิตรสหาย คนรู้ใจ กลายเป็นศัตรูในชั่วข้ามคืน

ไอลาและดาเนียล พบหน้ากันอีกครั้งหลังเดตครั้งแรก ในฐานะนายทหารกับเชลยสงคราม–ทหารเซิร์บที่เข้ามายึดครองกรุงซาราเยโว จับผู้หญิงชาวบอสเนียมาเป็นตัวประกัน ให้ทำงานบ้าน ทำอาหาร ซักเสื้อผ้า ใช้ระบายอารมณ์ใคร่อย่างป่าเถื่อน รวมทั้งอาศัยพวกเธอเป็นโล่มนุษย์ ไว้กำบังกระสุนจากหน่วยใต้ดินฝ่ายต่อต้าน

ดาเนียล นายทหารหนุ่ม ลูกนายพลคนสำคัญของกองทัพเซิร์บ พยายามปกป้องไอลาเท่าที่จะทำได้ ซ้ำยังบอกช่องทางหนีให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่า หลังสบโอกาสที่เธอทำสำเร็จ แต่แล้วก็กลับถูกพบเจอและจับตัวกลับมาใหม่ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากจัดสถานที่ให้เธอเป็นพิเศษ อยู่ในฐานะชู้รัก แถมยังจัดหา ขาตั้งเฟรม สีพู่กัน มาให้เธอวาดภาพ

สงครามกลางเมืองที่กินเวลายาวนานกว่า 3 ปีครึ่ง เนื่องเพราะสหประชาชาติและสหรัฐอเมริกาเอง ก็ไม่ต้องการเข้ามายุ่งเรื่องกิจการภายในประเทศคอมมิวนิสต์ ยิ่งมายิ่งตึงเครียด โดยเฉพาะบิดาของดาเนียล นายพลเนบอยซา (ราเด เซอร์เบดซิยา) นายพลขวาจัด ไม่พอใจอย่างแรง หลังรู้ข่าวว่าลูกชายตัวเองทำอะไรไม่ได้ดังใจ แถมยังแอบเก็บชู้รักที่เป็นหญิงสาวฝ่ายศัตรูเอาไว้ข้างกาย

ท่ามกลางสงครามยังมีความรัก หากความรักของทั้งคู่ไม่มีทางเป็นไปได้ เมื่อต่างฝ่ายมิอาจไว้ใจซึ่งกันและกัน

In the Land of Blood and Honey ผลงานกำกับครั้งแรก (และยังเขียนบทเองด้วย) ของ แองเจลินา โชลี หยิบยกเอาเรื่องราวของสงครามกลางเมืองที่รุนแรงและยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของยุคใหม่ มานำเสนอผ่านความสัมพันธ์ของไอลาและดาเนียล หญิงชายซึ่งตกที่นั่งอยู่คนละฝ่ายของความขัดแย้ง

แองเจลินา ใช้นักแสดงท้องถิ่นตัวจริงเสียงจริงมานำแสดงในเรื่องนี้ ซึ่งต่างก็เป็นนักแสดงอาชีพที่ต้องการถ่ายทอดเรื่องราวสงครามกลางเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ร่วมสมัยให้โลกได้รู้ โดยเฉพาะซานาและโกรันอันเป็นตัวแทนของชาวมุสลิม บอสเนีย และเซิร์บ บอสเนียตัวจริงเสียงจริงก็ต่างทำได้ดีมากทั้งคู่

ก่อนหน้านี้ กรุงซาราเยโวยังเป็นหนึ่งในสาธารณรัฐยูโกสลาเวีย ทั้งมุสลิม เซิร์บ และโครแอต ต่างอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างสันติ

เรื่องราวแบบนั้นไม่มีวันเป็นไปได้อีกแล้ว...

ไม่มีความคิดเห็น: